หลายคนเข้าใจว่า “มีประกันรถแล้ว เคลมได้ทุกอย่าง” ไม่ว่าจะชนเอง ถูกขีดข่วน หรือแค่ลมพัดกระจกแตก ก็โทรหาเจ้าหน้าที่ทันที...แต่เดี๋ยวก่อน! คุณรู้ไหมว่า ประกันรถยนต์ไม่ได้ครอบคลุมทุกกรณี และบางเหตุการณ์ที่คุณคิดว่าเคลมได้ จริง ๆ แล้วบริษัทประกันอาจปฏิเสธการเคลมแบบหน้าตาเฉย วันนี้เรามาเช็กกันดีกว่าว่า มีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ประกันไม่จ่าย หรือจ่ายแบบมีเงื่อนไข
กรณีที่ประกันรถยนต์ “อาจไม่จ่าย” หรือ “ไม่คุ้มครอง”
1. ขับรถขณะเมาสุรา
ถ้าระดับแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ = เคลมไม่ได้ทันที
แม้จะมีประกันชั้น 1 ก็ตาม
2. ไม่แจ้งความ/ไม่แจ้งบริษัทประกันภายในเวลาที่กำหนด
ส่วนมากกำหนดภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ
ถ้าทำช้าเกินไป อาจถูกปฏิเสธการเคลม
3. ชนแบบไม่มีคู่กรณี แล้วไม่มีหลักฐานชัดเจน
เช่น ถอยชนเสา แต่ไม่มีภาพ/ไม่มีร่องรอยที่ตรวจสอบได้
บางบริษัทอาจไม่รับเคลม หรือให้ซ่อมแบบมีค่าใช้จ่ายส่วนแรก (Excess)
4. ดัดแปลงรถโดยไม่ได้แจ้งบริษัทประกัน
เช่น เปลี่ยนล้อ โหลดเตี้ย ติดแก๊ส ติดหลังคาเพิ่ม
ถ้าทำให้รถเสี่ยงขึ้น โดยไม่แจ้ง อาจหมดสิทธิ์เคลม
╔═════════════════════════╗
บริการจำหน่าย พ.ร.บ. และประกันภัย รถจักรยานยนต์ รถยนต์
มองหาความคุ้มครองที่คุ้มค่า เพิ่มเพื่อนมาเลยที่ LINE: @AUCTFinn 💰 🚗
AUCT Finn อีกหนึ่งบริการดีๆจาก บมจ. สหการประมูล
╚═════════════════════════╝
5. ใช้รถผิดประเภทจากที่ระบุไว้
ซื้อประกันรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่เอาไปใช้เป็นรถรับจ้าง/ส่งของ
หากเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันสามารถปฏิเสธความคุ้มครองได้
6. ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ (ถ้าไม่ได้ซื้อเพิ่ม)
น้ำท่วม, พายุลูกเห็บ, ดินถล่ม ฯลฯ จะเคลมได้ต้องมีความคุ้มครองภัยธรรมชาติเท่านั้น
ประกันบางชั้น (เช่น 2+ / 3+) ไม่รวมเว้นแต่ซื้อพิเศษเพิ่มเข้าไป
เคลมได้แต่มี “ค่าความเสียหายส่วนแรก”
บางแผนจะมีเงื่อนไขให้ลูกค้า จ่ายเองบางส่วนก่อน เช่น 1,000 หรือ 2,000 บาท หากเป็นการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี อ่านเงื่อนไขกรมธรรม์ให้ดี โดยเฉพาะเรื่อง ค่า Excess เพราะหลายคนเพิ่งรู้ตอนซ่อมเสร็จแล้ว!
สรุป
มีประกันรถยนต์ไม่ใช่ว่าจะ “เคลมได้ทุกอย่าง” เพราะทุกกรมธรรม์มีข้อจำกัดและเงื่อนไขที่คุณควรอ่านให้เข้าใจ ก่อนจะใช้สิทธิ์เคลมจริง ๆ ถ้าไม่อยากเสียเงินฟรี หรือเคลมไม่ผ่านจนต้องจ่ายเองภายหลัง อย่าลืมศึกษาความคุ้มครองให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถครับ
